AMCO 40 ปี แห่งความสำเร็จ

PIG&PORK

AMCO บุกเบิก ค้นหาสิ่งใหม่ๆ ลงมือทำและเชื่อในความเป็นไปได้ แอมโก้กรุ๊ป ก้าวสู่ 40 ปีอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมตั้งเป้าสู่ผู้นำตลาด ด้านธุรกิจสุกรแบบครบวงจร

นับเป็นเวลา 40 ปีที่ AMCO GROUP เป็นผู้นำด้านการพัฒนาสายพันธุ์สุกรเดนมาร์ก ผู้ผลิต นำเข้าและจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ สารเสริมสำหรับสัตว์และอาหารสุกร โดยมี น.สพ.เสริมศักดิ์ เจี๊ยบนา เป็นผู้ก่อตั้งและผู้บุกเบิก จนทำให้ปัจจุบันสุกรเดนมาร์กเป็นสายพันธุ์ที่นิยมเป็นอันดับหนึ่งของผู้เลี้ยงสุกรในประเทศไทย 

น.สพ.เสริมศักดิ์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานบริหาร ได้เผยถึงจุดเริ่มต้นและกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตก้าวหน้าอย่างยั่งยืน พร้อมด้วย น.สพ.นิธิทัศน์ เจี๊ยบนา ผู้อำนวยการฝ่ายขาย AMCO GROUP ผู้เข้ามาบริหารธุรกิจและร่วมวางวางกลยุทธ์ให้บริษัทเติบโตไปข้างหน้าในปีต่อไป อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยความเชี่ยวชาญและวิสัยทัศน์ในมุมผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่ยึดหลัก “ไม่ใช่แค่ลูกค้าแต่เป็นคู่ค้า ไม่ใช่แค่พนักงานแต่เป็นครอบครัว”

น.สพ. เสริมศักดิ์ เจี๊ยบนา ประธานบริหาร AMCO GROUP

เวลา คือ เครื่องพิสูจน์ความสำเร็จ

ย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นกว่าจะมาเป็น AMCO GROUP น.สพ. เสริมศักดิ์ กล่าวว่า  “จากการศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพพันธุกรรมสุกรทั่วโลก ได้ข้อสรุปว่าสุกรสายพันธุ์เดนมาร์กเป็นพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูง และให้คุณภาพเนื้อที่ดีที่สุด จึงตั้งเป้าที่จะนำเข้าและพัฒนาสายพันธุ์นี้ให้เลี้ยงในประเทศไทยให้ได้”

“ในวันนั้นไม่มีใครเชื่อว่าการเลี้ยงสุกรเดนมาร์กในประเทศไทยจะเป็นไปได้ เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ทีม AMCO ก็สามารถปรับปรุงและพัฒนาสุกรสายพันธุ์นี้ให้เลี้ยงในประเทศเราได้สำเร็จ”

ด้วยความมุ่งมั่นในการคิดค้นวิธีการใหม่ ๆ ร่วมกับการใช้หลักการบริหารจัดการฟาร์มที่ดีแบบครบวงจร ทำให้สุกรพันธุ์ทุกตัวสามารถปรับตัว พร้อมดึงศักยภาพทางพันธุกรรมที่มีออกมาได้สูงสุด รวมถึงให้ผลผลิตและมีคุณภาพเทียบดีเท่าในถิ่นกำเนิด อีกทั้งยังได้รวบรวมองค์ความรู้ที่มีส่งต่อให้แก่วงการปศุสัตว์ไทยอย่างเรื่อยมา

ฟาร์มสุกรแม่พันธุ์ระบบปิด AMCOFARM

ปัจจุบัน โครงสร้างธุรกิจของ AMCO GROUP  สามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วนที่มอบสินค้าและบริการ ซึ่งครอบคลุมทั้งวงการปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร ได้แก่

1. AMCOFARM มุ่งเน้นด้านการพัฒนาและผลิตสายพันธุ์สุกรคุณภาพดี เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของเกษตรกรผู้เลี้ยงทั้งในประเทศไทยและกลุ่มประเทศ CLMV (Cambodia-Laos-Myanmar-Vietnam) เพื่อส่งต่อเนื้อหมูที่มีคุณภาพ อร่อย ปราศจากยา และสารตกค้าง อีกทั้งมอบความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคได้

2. AMCOVET ที่มีเป้าหมายสำคัญในการช่วยเหลือทุกชีวิตไม่ว่าจะเป็นตัวสัตว์ รวมถึงเกษตรกร ให้อยู่อย่างมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยมุ่งเน้นการค้นคว้าและคัดสรรเวชภัณฑ์ รวมถึงสารเสริมสำหรับสัตว์ อีกทั้งยังผนวกความรู้ที่มี เพื่อคิดค้นและพัฒนาอาหารสุกร ภายใต้แบรนด์ DANGROW ซึ่งเป็นอาหารที่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับสุกร เพื่อผลผลิตและกำไรสูงสุดของเกษตรกร

3. AMCOPET ธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการคัดสรรเวชภัณฑ์และสารเสริมสำหรับสัตว์เลี้ยง เพื่อตอบสนองความต้องการของสัตวแพทย์และเจ้าของสัตว์เลี้ยงเพื่อช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของสัตว์เลี้ยงในยุค Pet Humanization ได้เป็นอย่างดี

เบื้องหลังเส้นทางแห่งความสำเร็จ

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า AMCO GROUP เติบโตอย่างเข็มแข็งในวงการปศุสัตว์ไทยมาได้ เพราะความเป็นผู้บุกเบิกที่เข้าใจในธุรกิจสุกรและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร อีกทั้งวัฒนธรรมองค์กรที่อยู่ในดีเอ็นเอของพนักงานทุกคนถือเป็นจุดแข็งสำคัญที่สร้างความแตกต่างให้แก่องค์กร 

น.สพ. เสริมศักดิ์เผยว่า “ทีมงานของเราให้ความสำคัญในการเข้าใจความต้องการของลูกค้ามาเป็นอันดับหนึ่งและพร้อมที่จะค้นหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อแก้ปัญหาของลูกค้าได้ตรงจุดตลอดจนมีความมุ่งมั่นในการส่งต่อแนวทางการบริหารจัดการฟาร์มที่สามารถสร้างประโยชน์ให้ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การนำองค์ความรู้และการบริหารจัดการฟาร์มของ AMCOFARM มาถ่ายทอดให้ลูกค้าโดยมีเป้าหมายให้ฟาร์มลูกค้าได้ผลผลิตสุกรที่ดีที่สุด โดยใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลรวมถึงนำความรู้และประสบการณ์ที่มีมาใช้ในการพัฒนาอาหารสุกร DANGROW ที่ถูกคิดค้นและทดลองมาแล้วว่าเหมาะสมกับความต้องการของสุกรในแต่ละช่วงอายุทำให้สุกรกินดีและโตไวส่งเสริมให้เกษตรกรสร้างผลกำไรในธุรกิจของตนเองต่อไป”

ก้าวผ่านอุปสรรคด้วยการมองหาโอกาสในวิกฤต

วิสัยทัศน์ที่ทำให้บริษัทพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ และเติบโตได้อย่างมั่นคงมาตลอดจนถึงปีที่ 40 คือ แนวคิดที่มองว่าทุกปัญหามีทางออก  น.สพ. เสริมศักดิ์กล่าวว่า

“สิ่งที่เราย้ำกับพนักงานเมื่อเกิดวิกฤตคือ ทุกครั้งที่มีปัญหาเข้ามา ย่อมมีโอกาสใหม่ ๆ อยู่เสมอ”

ยกตัวอย่างเช่น ในขณะที่ประเทศไทยต้องประสบปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ซึ่งส่งผลให้จำนวนประชากรสุกรในประเทศลดลง จากการหยุดชะงักของฟาร์มสุกรหลายราย  บริษัทคาดการณ์ถึงความต้อง สุกรพ่อแม่พันธุ์จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเพื่อฟื้นฟูประชากรสุกรในประเทศ จึงขยายฟาร์มเพื่อรองรับปริมาณความต้องการในอนาคต และเพื่อส่งมอบสุกรสายพันธุ์คุณภาพดีที่สุดให้เกษตรกรไทยต่อไป

เดินไปด้วยกัน แข็งแกร่งไปด้วยกัน

อีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นกลยุทธ์แห่งความสำเร็จของ AMCO GROUP คือ การทำธุรกิจในรูปแบบเติบโตไปด้วยกัน ดั่งอุดมการณ์ “บุกเบิกเคียงข้าง สร้างความสำเร็จ” ที่บริษัทยึดมั่นมาโดยตลอด ในการดำเนินธุรกิจซึ่งให้ความสำคัญกับการมีส่วนช่วยเหลือลูกค้าและเป็นที่ปรึกษาในรูปแบบ Partnership  ที่สามารถแบ่งปันองค์ความรู้ ประสบการณ์ และพร้อมอยู่เคียงข้างในวันที่ลูกค้ามีปัญหา ตลอดจนการดูแลเอาใจใส่พนักงานทุก ๆ ภาคส่วนเสมือนบุคคลในครอบครัวก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ AMCO GROUP สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงครองใจคู่ค้าและผู้บริโภคได้อย่างมากมายในปัจจุบัน

การเปลี่ยนแปลงและการปรับตัว

ในยุคที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และอนาคตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน น.สพ.นิธิทัศน์ เจี๊ยบนา พูดถึงการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรที่อาจทำให้วิธีการขับเคลื่อนองค์กรแตกต่างไปจากเดิมแต่ยังคงรักษาทิศทางและเป้าหมายเดิมไว้ เพื่อส่งผ่านสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ภายใต้คอนเซปต์  Integrated Solutions หรือแนวทางการทำธุรกิจแบบบูรณาการ

น.สพ. นิธิทัศน์ เจี๊ยบนา ผู้อำนวยการฝ่ายขาย AMCO GROUP

“ผมเชื่อว่าความสำเร็จสามารถเป็นไปได้หลายแนวทาง ไม่มีสูตรตายตัว จึงตั้งเป้าในการทำให้ธุรกิจปศุสัตว์ของเราเป็น Integrated Solutions ที่สามารถมอบผลิตภัณฑ์และบริการให้ลูกค้าได้อย่างรอบด้าน รวมถึงมีแนวทางในการแก้ปัญหาที่ตรงจุด และครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าได้เสมอ เพื่อพาองค์กรก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการทำธุรกิจสุกรแบบครบวงจรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” น.สพ.นิธิทัศน์กล่าว

น.สพ.นิธิทัศน์กล่าวต่อว่า การพาบริษัทก้าวไปให้ไกลขึ้น บุคลากรในองค์กรถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ AMCO GROUP ให้ความสำคัญที่สุด เพราะวงการปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงต้องอาศัยทรัพยากรคนจำนวนมากในการขับเคลื่อน  ไม่ว่าจะเป็น เกษตรกร สัตวแพทย์ หรือเจ้าของสัตว์เลี้ยง ดังนั้น ความท้าทายของเราคือการทำให้องค์กรเป็น Employer of Choice หรือองค์กรที่ดึงดูดพนักงานใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพและเชื่อในอุดมการณ์เดียวกัน เพื่อเข้ามาพัฒนาบริษัท ในขณะเดียวกันก็ต้องพัฒนาพนักงานปัจจุบันให้สามารถรับมือกับทุกความเปลี่ยนแปลงไปพร้อม ๆ กัน

นอกจากนี้ น.สพ. นิธิทัศน์ ยังกล่าวเพิ่มว่า “นับแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 เศรษฐกิจทั่วโลกต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนด้านอุปสงค์และอุปทาน (Supply Chain Disruption)  ทั้งการขาดแคลนของวัตถุดิบ ความล่าช้าในการผลิตและการขนส่ง รวมถึงต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ที่เหนือการควบคุม ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ทุกคนต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือต่อไป”

มุ่งสู่ธุรกิจที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน AMCO GROUP ให้ความสำคัญกับหลักการ Diversification หรือ การขยายธุรกิจให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นเพื่อกระจายความเสี่ยง และทำให้องค์กรไม่ได้พึ่งพาแค่ธุรกิจสุกรเพียงอย่างเดียว ด้วยการขยายธุรกิจออกไปในแขนงอื่น ๆ เช่น สัตว์เลี้ยง สัตว์ปีก และในอนาคตอาจมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์น้ำ  เพื่อเสริมพอร์ตฟอลิโอขององค์กรให้มีความสมดุลและมั่นคง

อีกทั้งในอนาคตบริษัทตั้งใจจะขยายธุรกิจจาก Farming Business เป็น Food Business เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น บริษัทจึงเร่งพัฒนาและปรับปรุงการผลิตเนื้อหมูให้มีคุณภาพ อร่อย ปลอดภัย และดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคมากที่สุด ซึ่งเทรนด์การบริโภคที่เปลี่ยนไปนี้จะกลายเป็นความท้าทายใหม่ของวงการปศุสัตว์ไทย

พันธกิจสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน

AMCO GROUP ตั้งเป้าในการก้าวต่อ ไปอย่างมั่นคง ด้วยพันธกิจหลักในการส่งมอบ Integrated Solutions ที่ตอบโจทย์คู่ค้าได้อย่างครอบคลุมทุกความต้องการ และเป็นผู้นำด้านการฟื้นฟูธุรกิจฟาร์มสุกรให้กับเกษตรกรไทยหลังจากการระบาดของโรค ASF น.สพ. นิธิทัศน์ย้ำว่า

“ถึงแม้ว่าเราเป็นองค์กรขนาดกลางแต่ผมมั่นใจว่าด้วยทรัพยากรที่เรามี จะสามารถช่วยให้เกษตรกรกลับมาเลี้ยงหมูได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน”

รวมถึงการแบ่งปันองค์ความรู้และบุคลากรทั้งทีมขายและทีมวิชาการ จะสามารถช่วยให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง (Stakeholder) มีรายได้ที่มั่นคงและพัฒนาสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป

“ผมเชื่อว่าความมั่นคงเกิดจากความสุขที่ทุกคนมีร่วมกัน  ในอนาคต AMCO GROUP ตั้งเป้าในการเป็นองค์กรที่สามารถทำให้ทุกภาคส่วนมีความสุข และความสุขนั้นจะกลับมาทำให้เรามั่นคง” น.สพ. นิธิทัศน์กล่าวและกล่าวเพิ่มอีกว่า

นอกจากนี้ AMCO GROUP ได้วางแผนกลยุทธ์เพื่อการเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้านการพัฒนาธุรกิจสุกรแบบรอบด้าน ภายในระยะเวลา 5 ปี ครอบคลุมทั้งการผลิตและพัฒนาสุกรพันธุ์ สุกรขุน และเวชภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสุกร อีกทั้งยังวางแผนการขยายธุรกิจไปสู่เวชภัณฑ์สัตว์เลี้ยงและสัตว์ชนิดอื่น ๆ ต่อไป เพื่อส่งเสริมความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ให้องค์กรเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว.