ร่าง พรบ. วิชาชีพสัตวบาล ผ่านการอนุมัติและรับทราบจากคณะรัฐมนตรี

ร่าง พรบ.วิชาชีพสัตวบาล ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี

Livestock+
ร่าง พรบ.วิชาชีพสัตวบาล ผ่านการอนุมัติและรับทราบจากคณะรัฐมนตรี
ร่าง พรบ.วิชาชีพสัตวบาล ผ่านการอนุมัติและรับทราบจากคณะรัฐมนตรี

ร่าง พรบ.วิชาชีพสัตวบาล ผ่านการอนุมัติและรับทราบจากคณะรัฐมนตรี

เมื่อวันที่ 8 ม.ค.62 ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล คณะรัฐมนตรี โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

เรื่อง ร่าง พรบ.วิชาชีพสัตวบาล พ.ศ. …. เพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป

โดยคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและรับทราบ ดังนี้

  1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพสัตวบาล พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
  2. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
  3. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ

  1. กำหนดให้ “วิชาชีพสัตวบาล” หมายความว่า วิชาชีพเกี่ยวกับการจัดการใด ๆ ต่อสัตว์เลี้ยง การจัดการผลผลิตและผลิตภัณฑ์สัตว์ และให้รวมถึงการจัดการด้านต่าง ๆ ที่มีผลทำให้สัตว์แข็งแรงสมบูรณ์ “สัตว์เลี้ยง” หมายถึง สัตว์ที่เลี้ยงเพื่อประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ เช่น การบริโภค การใช้งาน การใช้ผลผลิต และเพื่อความพึงพอใจของมนุษย์ เช่น การเลี้ยงสัตว์สวยงาม ทั้งนี้ ไม่รวมสัตว์น้ำและสัตว์ป่า
  2. ให้มีสภาสัตวบาลเป็นนิติบุคคล โดยมีอำนาจหน้าที่รับขึ้นทะเบียน และออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสัตวบาล รับรองปริญญา อนุปริญญา ประกาศนียบัตรอนุมัติบัตร หรือวุฒิบัตรในวิชาชีพ สัตวบาลของสถาบันต่าง ๆ รับรองหลักสูตรต่าง ๆ สำหรับการฝึกอบรม เป็นต้น
  3. กำหนดให้รายได้สภาสัตวบาลมาจากเงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน ค่าขึ้นทะเบียนสมาชิก ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมตามพระราชบัญญัตินี้ ผลประโยชน์จากการจัดการทรัพย์สิน และกิจกรรม ตามวัตถุประสงค์ เงินและทรัพย์สินซึ่งมีผู้ให้แก่สภาสัตวบาล รวมถึงดอกผลของเงินและทรัพย์สินดังกล่าว
  4. ให้สมาชิกสภาสัตวบาล ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ มีความรู้ในวิชาชีพสัตวบาลโดยได้รับปริญญาในสาขาวิชาชีพสัตวบาล สัตวศาสตร์ เทคโนโลยีการผลิตสัตว์จากสถาบันที่สภาสัตวบาลรับรอง
  5. กำหนดสิทธิและหน้าที่ของสมาชิก คือ ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสัตวบาล
  6. ให้มี “คณะกรรมการสัตวบาล” ประกอบด้วยกรรมการโดยตำแหน่ง ได้แก่ นายกสมาคมสัตวบาลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กรรมการที่มาจากหน่วยงานราชการ โดยให้มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารกิจการสัตวบาลตามวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของ สภาสัตวบาล จัดตั้งสำนักงานของสภาสัตวบาล เป็นต้น
  7. ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบวิชาชีพสัตวบาล หรือแสดงด้วยวิธีใด ๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตจากสภาสัตวบาล
  8. ให้ผู้ประกอบวิชาชีพสัตวบาล แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ประเภท ก. และประเภท ข. และ ผู้มีสิทธิขอขึ้นทะเบียนและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสัตวบาลต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

8.1 ประเภท ก. ต้องได้รับปริญญาวิทยาศาสตร์บัณฑิตหรือสูงกว่าในสาขาสัตวบาล หรือสัตวศาสตร์ หรือเทคโนโลยีการผลิตสัตว์จากสถานศึกษาในประเทศไทย ที่ทบวงมหาวิทยาลัยหรือสำนักงาน การอุดมศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการรับรองและสภาสัตวบาลรับรองและเป็นสมาชิกแห่งสภาสัตวบาล และสมาคมสัตวบาลแห่งประเทศไทย เป็นต้น

8.2 ประเภท ข. มีความรู้ในวิชาชีพสัตวบาล โดยได้รับปริญญาสาขาอื่นที่มิใช่สัตวบาล สัตวศาสตร์ หรือเทคโนโลยีการผลิตสัตว์ หรือได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือวุฒิบัตรหรือเทียบเท่าจากสถานศึกษาที่สภาสัตวบาลรับรอง และผ่านการสอบความรู้ตามข้อบังคับสภาสัตวบาลและเป็นสมาชิกสมาคมสัตวบาลแห่งประเทศไทย