เร่งพัฒนาผลผลิตถั่วเหลือง ลดการนำเข้า

เร่งพัฒนา ผลผลิตถั่วเหลือง 2561 ลดการนำเข้า

NEWS

เร่งพัฒนา ผลผลิตถั่วเหลือง 2561 ลดการนำเข้า

อุตสาหกรรมถั่วเหลืองของไทยมีความต้องการใช้ ผลผลิตถั่วเหลือง 2561 จำนวนมาก แต่ปัจจุบันมีการผลิตถั่วเหลืองในประเทศเพียงร้อยละ 1.30 ของความต้องการใช้ จำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศถึงร้อยละ 98.70 ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อการนำเข้าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมถั่วเหลืองและอุตสาหกรรมต่อเนื่องของไทยเป็นวงกว้าง  การเพิ่มผลผลิตถั่วเหลืองในประเทศ จึงมีความจำเป็นเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร (food security) ของไทยในอนาคต

เร่งพัฒนา ผลผลิตถั่วเหลือง2561 ลดการนำเข้า
เร่งพัฒนา ผลผลิตถั่วเหลือง 2561 ลดการนำเข้า

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันเกษตรกร โดยมีที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (มีนายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์) เป็นที่ปรึกษาการประชุม และมีรองเลขาธิการ สศก. (นางอัญชนา ตราโช) เป็นประธานการประชุม เพื่อร่วมกันพิจารณาสถานการณ์การผลิตถั่วเหลืองและหาแนวทางการเร่งขยายผลผลิตถั่วเหลืองของไทย

ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ควรส่งเสริมให้เกิดการผลิตถั่วเหลืองในประเทศ เนื่องจากมีความต้องการสูง อีกทั้งถั่วเหลืองที่ผลิตได้ภายในประเทศ เป็นสายพันธุ์ธรรมชาติที่ปราศจากการตัดต่อพันธุกรรม (Non GMOs) จึงเป็นที่ต้องการของตลาดในการผลิตเป็นอาหารปลอดภัย (food safety)

ทุกฝ่ายควรร่วมมือกันหาปัจจัยที่จะสามารถกระตุ้นให้เกษตรกรหันมาปลูกถั่วเหลืองกันมากขึ้น โดยให้เกษตรกรเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา ในลักษณะ Consumer Centric มุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาตลอดห่วงโซ่การผลิต เกษตรกรมีองค์ความรู้ในเรื่องของการผลิตถั่วเหลืองให้ได้คุณภาพ  มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสม นอกจากนี้ ควรส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มในลักษณะเกษตรกรรมแปลงใหญ่ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรการผลิตร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพสามารถลดต้นทุนการผลิตและการตลาด ซึ่งขณะนี้กรมวิชาการเกษตรได้เตรียมการผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองชั้นพันธุ์ขยายที่สามารถรองรับพื้นที่การปลูกถั่วเหลืองได้ประมาณ 200,000 ไร่

สถานการณ์การผลิตถั่วเหลืองของไทย ปี 2561/62 พบว่า มีเนื้อที่เพาะปลูก 0.132 ล้านไร่ ผลผลิต 37,911 ตัน เมื่อเทียบกับปี 2560/61 ลดลงจากเนื้อที่ 0.135 ล้านไร่ และผลผลิต 38,079 ตัน (ลดลงร้อยละ 2.22 และร้อยละ 0.44 ตามลำดับ) ในขณะที่ผลผลิตต่อไร่อยู่ที่ 287 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปี 2560/61 ที่ให้ผลผลิต 281 กิโลกรัมต่อไร่ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.14) ซึ่งเนื้อที่เพาะปลูกและผลผลิตลดลงเนื่องจากต้นทุนการผลิตสูง และต้องใช้แรงงานคนในการเก็บเกี่ยว ประกอบกับผลตอบแทนจากการปลูกถั่วเหลืองต่ำกว่าพืชแข่งขันชนิดอื่น ส่วนผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นเนื่องจากภูมิอากาศเอื้ออำนวยโดยราคาเมล็ดถั่วเหลืองเกรดคละที่เกษตรกรขายได้ปี 2561 (มกราคม – พฤษภาคม) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 16.68 บาท

“ความต้องการใช้ถั่วเหลืองในปี 2561 จะมีความต้องการใช้ 2.93 ล้านตัน แต่จะเห็นได้ว่าผลผลิตในประเทศมีเพียง 37,911 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.30 เท่านั้น ที่เหลือจึงต้องนำเข้าร้อยละ 98.70 จากประเทศบราซิล สหรัฐอเมริกา อาร์เจนตินา และแคนาดา โดยนำมาใช้สำหรับกลุ่มสกัดน้ำมัน กลุ่มอาหารสัตว์ (ถั่วนึ่ง) และกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร ดังนั้น การส่งเสริมให้เกิดการผลิตถั่วเหลืองในประเทศ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันกำหนดแนวทาง เพื่อให้เกิดความยั่งยืน อุตสาหกรรมที่ใช้ถั่วเหลืองเป็นวัตถุดิบมีความมั่นใจในเรื่องปริมาณและคุณภาพ และเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองมีรายได้อย่างยั่งยืน” นายวิณะโรจน์กล่าว