สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ร้องเรียนกรมปศุสัตว์ต้องเอาจริงกับการแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูที่เข้ามาแย่งตลาดผู้เลี้ยงหมูไทย ซึ่งในขณะนี้ มีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความกังวลว่า หากยังปล่อยให้มีเนื้อหมูลักลอบนำเข้าจะเกิด Supply ส่วนเกินของผลผลิตหมูขุนในไตรมาส 4 ปีนี้ จนเสียหายหนักทั้งระบบ หลังการประเมินจำนวนหมูขุนที่เข้าเลี้ยงใหม่รายย่อย-รายกลาง กว่าล้านตัวจะออกตลาดในไตรมาสที่ 4 นี้
![](https://www.agriplusnews.com/wp-content/uploads/2022/08/2-1-1-900x621.jpg)
นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า สมาคมฯ จัดแถลงข่าวในวันนี้ เพราะเราเฝ้าสังเกตการกระทำผิดมาสักระยะหนึ่ง ในช่วงแรกการลักลอบนำเข้าเนื้อและชิ้นส่วนหมูเข้ามาจำหน่ายในประเทศยังมีจำนวนไม่มากเท่าทุกวันนี้ เครือข่ายผู้เลี้ยงสุกรพยายามหาเบาะแสมาตลอด แต่ทุกวันนี้มีการทำตลาดกันอย่างเปิดเผย ซึ่งเราก็วางใจที่กรมปศุสัตว์ออกมากวาดล้างอย่างจริงจัง แต่จำนวนที่จับได้ยังคงเป็นส่วนน้อย จึงต้องมาจัดการแถลงให้ชัดเจนเลยว่า พวกเราจะสามารถร่วมมือกันอย่างไรได้บ้าง เพราะปัจจุบันเราส่งเสริมให้เกษตรกรผู้เลี้ยงที่เสียหายจากปัญหาโรคระบาดโดยเฉพาะ ASF ที่เกษตรกรกำลังเริ่มกลับมาเข้าขุนใหม่แล้วกว่า 1 ล้านตัว ซึ่งก่อนผลผลิตจะออกสู่ตลาดในไตรมาสที่ 4 ในปีนี้ เราจะปล่อยให้มีการลักลอบแบบนี้ต่อไปไม่ได้
![](https://www.agriplusnews.com/wp-content/uploads/2022/08/2-2-900x675.jpg)
ปัจจุบันสถานการณ์การระบาดโรค ASF ในสุกรเริ่มคลี่คลาย สมาคมผู้เลี้ยงสุกรภูมิภาค โดยเฉพาะสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้จัดสัมมนาสัญจร “หลังเว้นวรรค จะกลับมาเลี้ยงใหม่อย่างไร? ให้ปลอดภัย ASF” เป็นจำนวน 10 ครั้ง 10 จังหวัด โดยได้รับการสนับสนุนจากฟาร์มสุกร ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ฟาร์ม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง “เราจะให้ฟาร์มที่กลับมาใหม่ ต้องมาแข่งกับการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูไม่ได้”
![](https://www.agriplusnews.com/wp-content/uploads/2022/08/2-3-900x675.jpg)
ภาวะต้นทุนการผลิตสุกรปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบัน จากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น มี Supply น้อยกว่าความต้องการ และถูกซ้ำเติมจากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้การเลี้ยงสุกรในปัจจุบัน ผู้เลี้ยงต้องแบกรับภาระต้นทุน ในไตรมาสที่ 2-3/2565 อยู่ในช่วง 98-101 บาทต่อกิโลกรัม
![](https://www.agriplusnews.com/wp-content/uploads/2022/08/2-4-900x675.jpg)
ผู้เลี้ยงสุกรต้องแบกรับภาระต้นทุนดูแลทั้งกลุ่มพืชไร่-ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และชาวนา-ข้าว ในขณะที่ราคาขายสุกรหน้าฟาร์มต้องให้ความร่วมมือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อดูแลผู้บริโภคในประเทศ ดังนั้นปัญหาการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูที่มีราคาต่ำมาจำหน่ายในประเทศ จึงเป็นเรื่องที่เอารัดเอาเปรียบผู้เลี้ยงสุกรไทย จนถึงขั้นสามารถทำลายการเลี้ยงสุกรไทยเลยก็ว่าได้ จึงต้องจัดแถลงข่าวเพื่อหาวิธีที่เข้มงวดจากภาครัฐและเอกชนเพื่อกำจัดขบวนการดังกล่าว
![](https://www.agriplusnews.com/wp-content/uploads/2022/08/2-5-900x675.jpg)
นายนิพัฒน์ เนื้อนิ่ม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า อยู่ในอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรมานาน ยอมรับว่าการประกอบอาชีพการเลี้ยงสุกรไม่ง่ายเลย ต้องดูแลสุขภาพสุกรที่นับวันต้องเข้มงวดเพิ่มขึ้น จากโรคอุบัติใหม่และโรคประจำถิ่น
ปัจจุบันภาคตะวันตก โดยเฉพาะจังหวัดราชบุรี ได้ให้ความร่วมมือกับโครงการต่างๆ ของหน่วยงานราชการด้วยดี ทั้ง BCG สาขาเกษตรแบบบูรณาการเชิงพื้นที่ที่นำร่อง PIG SANDBOX มาฟื้นฟูฟาร์มสุกรที่ได้รับผลกระทบทั้ง FMD และ ASF
![](https://www.agriplusnews.com/wp-content/uploads/2022/08/2-7-900x675.jpg)
ดังที่กล่าวมานั้น เป็นปัญหาและอุปสรรค สิ่งที่ต้องดูแลและฟื้นฟู ถ้ายังปล่อยให้มีการลักลอบนำหมูราคาถูกเข้ามา นอกจากจะทำลายอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรของไทยแล้ว ยังเป็นการนำโรค ASF กลับเข้ามาในระบบอีก เพราะไทยเราเริ่มคุม ASF ได้แล้ว เนื้อหมูนำเข้าเหล่านั้นมีวางจำหน่ายแพร่กระจายไปทุกภูมิภาค เป็นหมูแช่แข็งมาจากยุโรป ตามรายงานข่าว เมื่อ 4 กรกฎาคม 2565 ว่ามีการระบาดของ ASF ที่เยอรมัน ยิ่งทำให้เนื้อหมูที่ลักลอบนำเข้ามาเสมือนเป็นขยะที่เขาต้องทำลาย แต่ลักลอบส่งมาขายแบบถูกๆ หากปล่อยให้อยู่ในระบบก็จะมีโอกาสที่คนงานในฟาร์มไปสัมผัสนำเชื้อเข้าฟาร์มได้ การกลับมาเลี้ยงสุกรใหม่ ผู้เลี้ยงต้องเผชิญทั้ง Supply ส่วนเกิน และเชื้อไวรัสในระบบที่พร้อมต่อเชื้อได้ตลอดเวลา เราจึงต้องเร่งหาทางกำจัดการลักลอบนำเข้าอย่างด่วนที่สุด
นายสัตวแพทย์วรวุฒิ ศิริปุณย์ ประธานชมรมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ตั้งข้อสังเกตว่า “เนื้อหมูที่ลักลอบนำเข้าในช่วงนี้ มีราคาที่ต่ำกว่าราคาในบ้านเรามาก แต่ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ทั้งโลกแพงพอๆ กัน ยกเว้นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บ้านเราที่ยังแพง ราคาอยู่ที่ 12-13 บาทต่อกิโลกรัม โดยข้าวโพดในต่างประเทศรวมต้นทุนค่าขนส่งแล้วต่ำกว่าไทยไม่มาก ในขณะที่ข้าวสาลีเริ่มย่อตัวเล็กน้อย ดังนั้นเนื้อหมูที่ลักลอบหรือที่ตลาดเรียก “หมูกล่อง” มีราคาเสนอขายต่ำมากนั้น มั่นใจว่าเป็นหมูติดเชื้อ ASF ทั้งหมด ถ้ายังจำกันได้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดย ส.ส.ภาคเหนือท่านหนึ่ง ได้นำหลักฐานผลการตรวจพบเชื้อ ASF ในเนื้อหมู จากที่ขายลดราคาในตลาดกรุงเทพฯ และตรวจซ้ำถึง 2 ครั้ง มายืนยันในสภา จึงเป็นหลักฐานที่ค่อนข้างเชื่อได้ว่า เนื้อหมูลักลอบนำเข้ามาจำหน่าย เป็นเนื้อที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส ASF เกือบทั้งหมด
![](https://www.agriplusnews.com/wp-content/uploads/2022/08/2-8-900x675.jpg)
ดังนั้น “หมูกล่อง” ที่เก็บตามห้องเย็นต่างๆ เสมือนระเบิดเวลาของประเทศ ที่จะทำให้เกิดการระบาดไม่สิ้นสุด และเชื่อว่ากลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเนื้อหมู กลุ่มแปรรูปถนอมอาหารก็น่าจะสำรองเนื้อหมูเหล่านี้ไว้เช่นกัน โดยใช้เหตุผลที่ว่า “ไวรัสไม่ติดต่อสู่คน” มาเป็นประโยชน์ในการรับซื้อของขบวนการลักลอบนำเข้าหมูกล่องเหล่านี้ วันนี้เราจึงต้องหาทางจัดการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน”
นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ตลอดเวลาตั้งแต่ต้นปี สมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และชมรมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ร่วมจัดสัมมนาสัญจรใน 10 จังหวัด ตั้งแต่อีสานเหนือ จนถึงอีสานใต้ “หลังเว้นวรรค…เตรียมความพร้อมอย่างไร?.. ให้ปลอดภัย ASF” ที่มีผู้เลี้ยงที่กำลังจะกลับมาเลี้ยงใหม่ร่วมสัมมนาอย่างหนาแน่นในทุกครั้ง ซึ่งถึงตอนนี้สามารถประเมินได้ว่ามีเกษตรกรกลับมาเลี้ยงใหม่ประมาณ 10% ถึงแม้ภาระต่างๆ ยังหนักหนามาก เช่น ค่าลูกสุกรพันธุ์ที่สูง ค่าอาหารสัตว์ ค่าพลังงาน ฯลฯ
![](https://www.agriplusnews.com/wp-content/uploads/2022/08/2-9-900x675.jpg)
ภาคอีสานเป็นตลาดที่มีหมูลักลอบสูงเช่นกัน เนื่องจากมีตลาดการแปรรูปถนอมอาหารที่ใหญ่มาก ถ้าเนื้อหมูดังกล่าวปนเปื้อนไวรัส ASF ภาคอีสานก็จะมีการกระจายของเชื้อในเนื้อหมูนี้มากเช่นกัน สุดท้ายแล้วมันจะมาทำร้ายเกษตรกรผู้เลี้ยงในพื้นที่ระลอกใหม่
สำหรับแนวทางแก้ไขผมเคยชี้แนะให้กระทำในลักษณะ 3 ประสาน ทั้งกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ กรมการค้าภายใน กับการจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูกเกินจริง ก็ถือว่าเป็นความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการเช่นกัน เพราะเป็นการกระทำความผิดต่อผู้เลี้ยงและผู้ค้า ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานสามารถประสานงานกันได้ เพื่อไม่ให้ประเทศเสียหาย เพราะการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูที่อาจปนเปื้อนเชื้อไวรัส หรือแม้แต่สารเร่งเนื้อแดงก็ตาม ถือว่าผิดกฎหมายทั้งนั้น
นายปรีชา กิจถาวร นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ กล่าวว่า สำหรับภาคใต้ยังมีจำนวนสุกรเพียงพอสำหรับการบริโภคในพื้นที่ แต่ที่ผ่านมาประสบปัญหาน่าสงสัยว่าจะมี “หมูกล่อง” มาแทรกผ่านช่องทางห้างค้าส่ง-ค้าปลีก ที่ตั้งราคาจำหน่ายปลีกต่ำมาก โดยยอดจำหน่ายฟาร์มขนาดใหญ่ครบวงจรช่วงที่ผ่านมาลดลงไปประมาณ 30% แหล่งต้นตอของหมูกล่องที่มาจำหน่ายในพื้นที่ภาคใต้น่าจะมาจากภาคกลาง โดยพื้นที่ที่มีการเข้ามาทำตลาดมากที่สุดจะเป็นจังหวัดนครศรีธรรมราช ภูเก็ต และสงขลา
ข้อกังวลผลกระทบก็คงเป็นในลักษณะเดียวกับภูมิภาคอื่นๆ คือ การมาสร้าง Supply ส่วนเกินให้ตลาดภาคใต้ ที่ถือว่าได้รับผลกระทบจาก ASF น้อยกว่าภูมิภาคอื่นๆ มีผลผลิตไม่ขาดแคลน เพียงแต่ว่าช่วงหลังมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น โดยประเด็นเชื้อไวรัส ASF ที่อยู่ในหมูกล่องเหล่านี้มีโอกาสจะทำความเสียหายสูงให้กับผู้เลี้ยงสุกรให้เกิดการระบาดในรอบใหม่ได้
นายสุนทราภรณ์ สิงห์รีวงศ์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ กล่าวว่า “ภาคเหนือเป็นพื้นที่ที่ปริมาณเนื้อหมูไม่เพียงพออยู่แล้ว เนื่องจากเป็นพื้นที่แรกที่เสียหายจากการระบาดของโรค ASF ในสุกร จากปกติปริมาณสุกรเข้าโรงฆ่าในพื้นที่อยู่ที่ 2,000-3,000 ตัวต่อวัน และมีการนำเข้าซากสุกรที่เชือดแล้วประมาณ 70-100 ตันต่อวัน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีการนำเข้า “ซากสุกร” ขึ้นมาทางภาคเหนือเพิ่มขึ้นเป็น 160-170 ตันต่อวัน ส่งผลกระทบต่อยอดขายสุกรมีชีวิตในฟาร์มเริ่มออกช้าลง 30% ทำให้ต้องเลี้ยงต่อไปจนมีน้ำหนักมากขึ้น ทำให้ราคาหน้าฟาร์มมีทิศทางที่จะอ่อนตัว
![](https://www.agriplusnews.com/wp-content/uploads/2022/08/3-1-900x599.jpg)
ถึงแม้การกลับเข้าขุนใหม่ของผู้เลี้ยงจะเพิ่มขึ้นแต่ผลผลิตยังไม่มาก ซึ่งคาดว่าจะพอเพียงในพื้นที่ภายในสิ้นปีนี้ แต่กลับมีปริมาณเนื้อหมูในตลาดเพิ่มขึ้นผิดปกติ ซึ่งคาดว่าเป็นเนื้อหมูลักลอบนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์
หมูลักลอบเหล่านี้น่าจะได้รับการสนับสนุนจากผู้ค้าคนไทย ทั้งภาครัฐผู้ที่มีหน้าที่ตรวจสอบป้องกัน แต่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งผู้ประกอบการร้านอาหารที่หันไปซื้อของถูกมาปรุงให้ผู้บริโภคกิน ซึ่งเป็นที่สงสัยว่าจะเป็นเนื้อหมูที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส ASF ซึ่งภาครัฐต้องรีบกำจัดเนื้อหมูผิดกฎหมายโดยเร็วที่สุด
![](https://www.agriplusnews.com/wp-content/uploads/2022/08/2-6-900x675.jpg)